วันเกิด16 มกราคม ค.ศ. 1995 ปัจจุบันอายุ 27 ปี
สัญชาติ ญี่ปุ่น
ส่วนสูง174 เซนติเมตร
ตำแหน่ง กองกลางตัวรุก และกองกลางตัวหลัง
สังกัดสโมสร ลิเวอร์พูล
ทาคุมิ มินามิโนะ เกิดอยู่ในเมืองอิซิมิซาโนะ ในจังหวัดโอซากะ อยู่ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น พ่อของเขาเองชื่อว่าทาคุมิ นับว่าเป็นพ่อที่สนใจลูกมาก แล้วได้มีการจัดตาราง รวมไปถึงการวางแผนให้กับลูกอยู่เสมอ แล้วจะมีการติดตามลูกไปทุกที่ ไม่ว่าจะแข่งที่ไหนก็ตาม ตั้งแต่เล็กจนมาถึงโต ได้มีคำแนะนำต่างๆให้ลูก จนสนิทมากจนถึงปัจจุบันนี้
การแข่งขันในระดับเยาวชน
มินามิโนะเข้าร่วมทีมเยาวชนของ เซเรโซ โอซาก้า ในวัย 12 ปี โดยในช่วงที่เล่นให้กับทีมเยาวชนนั้น เขาได้มีโอกาสฝึกซ้อมร่วมกับ ชินจิ คางาวะ ซึ่งเป็นผู้เล่นในทีมชุดใหญ่ มินามิโนะกล่าวถึงทีมเยาวชนเมื่อปี 2014 ว่า "ทีมเยาวชนเซเรโซเปรียบเสมือนผู้ฝึกสอนทางกายของทีมชั้นนำ แต่ผมกลับเป็นผู้ฝึกสอนทางกายของผม มันฟังดูหนักแน่นแปลก ๆ จริงไหม"
ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2009 มินามิโนะได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลสโมสรเยาวชนญี่ปุ่นรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี เขามีส่วนช่วยให้ทีมจบอันดับที่ 8 หลังจากตกรอบก่อนรองชนะเลิศ อย่างไรก็ตาม เขากลับกลายเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในรายการนั้นที่ 8 ประตู ปีถัดมา มินามิโนะช่วยให้ทีมรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ชนะเลิศปรินซ์ลีกคันไซ โดยเขาทำได้แฮตทริกช่วยให้ทีมเอาชนะ ทีมโรงเรียนมัธยมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนครโคเบะ 5–0 เมื่อวันที่ 11 เมษายน ค.ศ. 2010 ใน ค.ศ. 2011 เขาเลื่อนขึ้นไปเล่นให้กับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี โดยได้เข้าร่วมแข่งขันในซอกเกอร์พรีเมียร์ลีกทากามาโดมิยะคัพ เจเอฟเอ รุ่นอายุไม่เกิน U-18 เขาทำ 9 ประตู ซึ่งมากเป็นอันดับที่สี่ในรายการนั้น มินามิโนะยังช่วยให้ทีมเข้าชิงชนะเลิศเจยูธคัพ ซึ่งสุดท้ายแล้วพวกเขาพ่ายแพ้ต่อนาโงยะแกรมปัส 3–1 อย่างไรก็ตาม เขาเป็นผู้ทำประตูสูงสุดของรายการที่ 13 ประตู
ก้าวสู่ระดับอาชีพ
หลังจากสองปีกับทีมเยาวชน มินามิโนะได้ลงทะเบียนกับทีมชุดใหญ่ของ เซเรโซ ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2012 ต่อมาในวันที่ 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 2012 เขาได้ลงเล่นนัดแรกให้กับทีมชุดใหญ่ โดยลงเล่นเป็นตัวสำรองแทนที่ทากูมะ เอดามูระ ในนัดที่พ่ายแพ้โอมิยะ อาร์ดิจา 3–1 วันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 2012 เขาทำประตูแรกให้กับสโมสร ช่วยให้เอาชนะชิมิซุ เอส-พัลส์ 4–0 ในฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระจักรพรรดิ รอบที่ 4 จบฤดูกาล 2012 มินามิโนะลงเล่น 5 นัดและยิงหนึ่งประตูจากทุกรายการ
เขากลายเป็นตัวผู้เล่นของทีมชุดใหญ่อย่างเต็มตัวใน ค.ศ. 2013 โดยได้รับเสื้อหมายเลข 13 สำหรับฤดูกาลนี้ มินามิโนะ เป็นผู้เล่นคนแรกจากระบบเยาวชนของสโมสรที่ได้ลงเล่นในนัดเปิดฤดูกาล หลังจากนั้น สัญญาของเขากับสโมสรได้กลายเป็นสัญญาอาชีพ มินามิโนะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จบฤดูกาล 2013 เขาลงเล่น 38 นัดและทำ 8 ประตูจากทุกรายการ เขาได้รับรางวัลผู้เล่นหน้าใหม่ยอดเยี่ยมของเจลีกประจำปี 2013 และได้ขยายสัญญากับสโมสรออกไป
อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลที่สองและฤดูกาลสุดท้ายของเขากับสโมสรกลับกลายเป็นฤดูกาลที่ไม่ค่อยดีนัก เมื่อสุดท้ายแล้วสโมสรต้องตกชั้นจากลีกสูงสุดไป หลังจบฤดูกาล 2014
เขาลงเล่นในเจลีก ดิวิชัน 1 ให้กับ เซเรโซ โอซากะ รวมทุกฤดูกาล 62 และยิงได้ 7 ประตู จากผลงาน ทำให้เขามีข่าวว่าจะย้ายออกจากสโมสรหลังจากที่ได้รับความสนใจจากสโมสรยุโรปหลายแห่ง
โลดแล่นบนเวทียุโรป
เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ได้ติดตามผลงานของ มินามิโนะ เป็นเวลานานถึงหนึ่งปีครึ่ง ก่อนที่จะเซ็นสัญญากับเขาในวันที่ 7 มกราคม ค.ศ. 2015 โดยสัญญามีผลจนถึง ค.ศ. 2018 พร้อมตัวเลือกในการขยายเพิ่มอีกหนึ่งปี เซเรโซ โอซากะ ได้ประกาศยืนยันถึงการย้ายออกของเขาในเวลาต่อมา
มินามิโนะ ลงเล่นให้กับ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก นัดแรกด้วยการลงเล่นเป็นตัวจริง ในนัดที่เอาชนะ Wiener Neustadt 2–0 มินามิโนะ ทำประตูแรกให้กับ เร้ดบูลล์ ช่วยให้เอาชนะ Admira Wacker Mödling 4–1 และมินามิโนะ มีส่วนช่วยให้ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ชนะเลิศออสเตรียนบุนเดสลีกา ได้ในฤดูกาลแรกที่เขาได้เล่นให้กับสโมสร และเขายังได้ลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศออสเตรียนคัพ ช่วยให้ทีมได้แชมป์มาครอง มินามิโนะลงเล่นทั้งหมด 14 นัดและยิงได้ 3 ประตูจากทุกรายการ
หลังจากนั้น มินามิโนะ ก็ทำผลงานให้กับทีมได้อย่างยอดเยี่ยมเป็นต้นมา มินามิโนะ ได้ลงเล่นในหลายตำแหน่งด้วยกัน ทั้งปีก กองกลาง กองหน้า ทำให้ตัวเขาเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ของทีม และมีส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ลีก และแชมป์ฟุตบอลถ้วยของประเทศออสเตรียมาครองได้หลายสมัย
จากฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม และมีประโยชน์ให้กับทีม ทำให้จุดเด่นตรงนี้ไปเตะตา เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้า ว่ากันว่าในนัดที่ เร้ดบูลล์ พบกับ ลิเวอร์พูล ในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นั่นเองที่ทำให้ คล็อปป์ ตัดสินใจที่จะนำตัวดาวเตะชาวญี่ปุ่นคนนี้มาร่วมทีมให้ได้
และเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2020 ช่วงตลาดซื้อขายนักเตะรอบที่ 2 มินามิโนะ ก็ได้ทำการย้ายสโมสรจาก เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ไปร่วมทีม ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 7.25 ล้านปอนด์ และได้ประเดิมสนามนัดแรก ในถ้วยเอฟเอคัพ รอบสาม ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน คู่ปรับร่วมเมือง จบฤดูกาล มินามิโนะมีส่วนช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกมาครองในรอบ 30 ปีได้สำเร็จ
ในช่วงเปิดตลาดรอบที่ 2 ปี 2021 เนื่องด้วยผลงานที่ยังไม่เข้าฟอร์มเท่าที่ควรและยังไม่สามารถสอดแทรกขึ้นไปเป็นตัวจริงในทีมได้ จึงทำให้ คล็อปป์ ตัดสินใจปล่อยยืมตัว มินามิโนะ ให้กับ เซาแธมป์ตัน ยืมตัวไปใช้งานเป็นเวลาครึ่งฤดูกาล และหลังจากหมดสัญญายืมตัว และได้กลับมาที่ต้นสังกัดจริงอีกครั้ง มินามิโนะ ในฤดูกาล 2022 มินามิโนะ ก็มีส่วนสำคัญกับทีมอีกครั้ง ด้วยการลงเล่นที่มากขึ้น แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นการลงเล่นในรายการบอลถ้วย แต่ มินามิโนะ มีส่วนสำคัญในการทำประตู ช่วยให้ทีมผ่านเข้ารอบ ฟุตบอลถ้วยอังกฤษ และรวมถึง การได้แชมป์ ลีกคัพ ในรอบ 10 ปี ของสโมสรอีกด้วย
ระดับทีมชาติ
มินามิโนะ ได้ลงเล่นนัดแรกให้กับทีมชาติ ญี่ปุ่น ในนัดกระชับมิตรที่พบกับอิหร่านเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ. 2015 และลงเล่นนัดที่สองให้กับญี่ปุ่นในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โดยลงเล่นเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 86 ช่วยให้เอาชนะกัมพูชา 2–0 ใน ค.ศ. 2018 เขาถูกเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบสามปี
ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2018 มินามิโนะมีชื่อเป็น 1 ใน 23 ผู้เล่นทีมชาติญี่ปุ่น ชุดลุยศึกเอเชียนคัพ 2019 ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2019 จบรายการ มินามิโนะได้ลงเล่นทั้งหมด 6 นัด เขาทำเพิ่มอีกห้าประตูจากการลงเล่นในช่วงที่เหลือของ ค.ศ. 2019
และล่าสุด มินามิโนะ เป็นกำลังหลักสำคัญช่วยให้ทีมชาติญี่ปุ่นผ่านเข้ารอบไปเล่นฟุตบอลโลกที่ประเทศ กาตาร์ ในช่วงสิ้นปี 2022 ได้สำเร็จ
เกียรติประวัติ
เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก
ออสเตรียน บุนเดสลีกา : 2014–15, 2015–16, 2016–17, 2017–18, 2018–19, 2019–20
ออสเตรียนคัพ : 2014–15, 2015–16, 2016–17, 2018–19
ลิเวอร์พูล
พรีเมียร์ลีก : 2019–20
คาราบาวคัพ (อีเอฟแอลคัพ) : 2021–22
รางวัลส่วนตัว
J. League Rookie of the Year: 2013
Japan Professional Sports Grand Prize's Rookie Award: 2013
อ่านข่าวเพิ่มเติม : เว็บผลบอล
ติดตามข่าวฟุตบอล : ผลบอลล่าสุด
Comments